วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

มะขามครับ


ปวดฟัน

ส่วนใหญ่เกิดเนื่องจากฟันผุเป็นรู ยาที่ใช้ส่วนใหญ่จะระงับเชื้อโรคและทำให้ปลายประสาทชา
ยังไม่มียาที่ยับยั้งฟันที่ผุแล้วไม่ให้ลามต่อไป เมื่อรู้ว่าฟันผุต้องรีบไปอุดเสีย ยาแก้ปวดฟัน
จะช่วยระงับอาการเท่านั้น เมื่อหายปวดแล้วต้องรีบไปอุดหรือรักษาฟันต่อไป

ขนานที่ 1
เด็ดใบตำลึงมาสัก 1 กำมือ ดินสอพอง 2 แผ่น ใส่ครกโขลกพอแหลก เติมน้ำนิดหน่อย
เอามาพอกข้าง แก้มที่ปวด พอแห้งก็เปลี่ยนใหม่ พอกสัก 2-3 ครั้ง จะทำให้หายปวดได้

ขนานที่ 2
เอาหัวข่าแก่สดผสมเกลือเล็กน้อย โขลกให้ละเอียดใส่รูฟันที่ปวด

ขนานที่ 3
เอากานพลูตำพอแหลกผสมกับเหล้าขาวเพียงเล็กน้อยพอแฉะ ใช้จิ้มหรืออุดฟันที่ปวด

ขนานที่ 4
ลอกเปลือกไม้มะขามจะเป็นมะขามเทศหรือมะขามบ้านก็ได้ เอามา 1 กำมือ ใส่น้ำให้ท่วมยา ใส่เกลือ 1 ช้อนชา
ต้มให้เดือนสัก 10 นาที ปล่อยให้เย็น เอามาอมไว้ในปาก อมนาน 2-3 นาทีอมสัก 3-4 ครั้ง

ขนานที่ 5
ใช้เปลือกข่อยต้มอมแบบเดียวกับเปลือกมะขาม

ขนานที่ 6
ใช้รากมะพร้าวต้ม อมแบบเดียวกับเปลือกมะขาม

ขนานที่ 7
เอาการบูรใส่ในฟันที่ปวด

ขนานที่ 8
เอารากหนอนตายอยาก ตำอุดตรงรูฟันที่ปวด

ขนานที่ 9
ใช้ใบและต้นของผักส้มกล ผสมกับเกลือพอให้เค็ม ขยี้พอให้ช้ำๆ แปะข้างเหงือกตรงฟันที่ปวด

ขนานที่ 10
เอาดอกหรือใบของผักคราดหัวแหวนขยี้หรือบดให้ละเอียดใส่ฟันที่ปวด

ขนานที่ 11
เอากระดาษหรือใบตองมวนสำลีแบบมวนบุหรี่ แล้วสูบทางจมูกข้างตรงข้ามกับฟันที่ปวด
สูบเพียง 1 มวนถ้ามึนให้พักสักครู่จึงค่อยสูบต่อ (สูบแล้วจะมีอาการน้ำหูน้ำตาไหล)



มะขามแก้ผิวแห้ง

ในหน้าหนาว คนโบราณที่ยังไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น อย่างดีก็ต้มน้ำร้อนในกานำมาผสมในกะละมังตักอาบ
แต่ก็ใช่จะมีแต่พึ่งกาต้มน้ำเท่านั้น ผู้เฒ่าแม่แก่ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนเรา แนะนำไว้ในประสบการณ์ชีวิตว่า
การอาบน้ำในฤดูหนาวนั้นสำคัญนัก เพราะจะทำให้เป็นไข้หวัดหรือรักษาสุขภาพดีจนผ่านพ้นลมหนาวไปได้

ประการ แรก ไม่ควรกัดฟันทนหนาวเพราะความเคยชิน แล้วตักน้ำอาบหรือ ท้าสายน้ำจากฝักบัว
โดยเฉพาะทนอาบน้ำเช้า-เย็น เป็นอันขาด จะทำให้ไม่สบายจนปอดบวมได้คนโบราณเขารู้กันว่า
เวลาอากาศเย็นจัดๆ เช่นตอนเช้ามืดและดึกดื่นค่ำคืนไม่ควรอาบน้ำ เวลาที่เหมาะในการอาบน้ำ
คือ เวลายังมีแดด ก่อนบ่ายสามหรือบ่ายสี่เด็กๆ ก็ไม่ควรอาบน้ำ แต่ใช้การเช็ดตัวน่าจะพอ
และอย่าให้น้ำเย็นถูกบริเวณอกกับคอ เพราะเด็กมีความต้านทานน้อยจะไม่สบายได้ง่าย

การ นอนก็เป็นกิจกรรมที่สำคัญ เคยสังเกตหรือไม่ว่า ก่อนนอนยังดีๆ แต่พอตื่นเช้ากลับรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว
จะเป็นไข้ ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าโดยส่วนใหญ่เกิดจากการห่มผ้าไม่เพียงพอ หรือนุ่งห่มเสื้อผ้าบางเกินไป โดยเฉพาะบริเวณอกและคอซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ไข้หวัดมักโจมตี จึงต้องทำให้ร่างกายอบอุ่นตลอด

แต่ถ้าเราดูแลสุขภาพตามวิถีข้างต้นดีแล้ว ปัญหาอีกประการหนึ่งที่หลายคนไม่ชอบเอาเลยในฤดูหนาว
คือ อาการผิวแห้งแตก บางท่านแม้จะใช้ครีมหรือโลชั่นทาผิวทาแล้วทาอีก ผิวพรรณก็ยังแห้งเป็นขุย
ลองใช้ประสบการณ์ของคุณยายคุณย่า ที่เคยผ่านวัยสาวที่อารมณ์จิตใจคงไม่ต่างจากสาวๆ รุ่นนี้
ที่ห่วงใยความงามของผิวพรรณเช่นกัน

สาว สวยย้อนยุคจะมีเครื่องสำอางข้างกายไว้สู้ลมหนาว เรียกได้ว่าเชื้อเชิญเข้ามาประจำในห้องน้ำเลยก็ได้
นั่นคือ มะขามเปียก ใช้มะขามเปียกในห้องน้ำคงไม่ได้คั้นมาทำอาหารใดๆ แต่ใช้แทนสบู่ในฤดูหนาวได้เลย
หากคุณไปซื้อมะขามเปียกมาสัก ๕-๑๐ บาท ลอกเอารกหรือใยของมะขามออกก่อน ตอนอาบน้ำก็ลาดตัวปกติ แต่แทนที่จะใช้สบู่ฟอกตัวให้ใช้มะขามถูตัวได้เลย ใครที่คิดว่าร่างกายไม่สะอาด ขอให้รู้ว่าเป็นเพียงความรู้สึก เพราะกลิ่นมะขามไม่หอมสะอาดเหมือนน้ำหอมสังเคราะห์ที่ทำให้เรารู้สึกสะอาด

แต่ ถ้าพิจารณาจากสารออกฤทธิ์ของมะขามจะพบว่า มะขามมีคุณสมบัติทำความสะอาดผิวหนังได้
จึงไม่ต้องกังวลว่าร่างกายของเราจะมีกลิ่นตัว คนรุ่นก่อนยังแนะนำให้ผู้มีกลิ่นเต่าใช้มะขามถูตัว
และใช้ถูรักแร้เวลาอาบน้ำ เพื่อลดกลิ่นตัวที่ไม่พึงประสงค์ด้วย

นอกจาก นี้ มะขามถนอมผิวรุ่นคุณย่ายังสาวนั้นได้มีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ ซึ่งทางมูลนิธิสุขภาพไทย
ได้ส่งเสริมให้ชาวบ้านทำไว้ใช้เองมานานกว่า ๑๐ ปีแล้ว ซึ่งปัจจุบันได้กลายมาเป็นสินค้าโกอินเตอร์ส่งขาย
ไปในหลายประเทศ มะขามในตลาดสด สามารถนำมาทำเป็นครีมมะขามขัดผิว
บำรุงผิวให้ผ่องเนียนและสะอาดสะอ้าน แม้ใครผิวคล้ำก็สวยได้เพราะผิวพรรณเนียนผ่อง

วิธี ทำง่ายๆ นำมะขามเปียกมาล้างน้ำ ลอกเอารกออก แล้วขูดเอาเฉพาะเนื้อมะขามมาใช้ ผสมนมสดพอให้เนื้อมะขามเหลวแต่อย่าให้เหลวจนทาไม่ติด ผสมน้ำผึ้งเล็กน้อย และถ้ามีผงขมิ้นใส่ลงไปอีกเล็กน้อย
บรรจุใส่ภาชนะ นำมาใช้ทาหน้าเพื่อทำความสะอาดหรือทาผิวแขนขาก็ได้ ควรทิ้งไว้สัก ๑๐-๑๕ นาที
แนะนำให้ใช้เฉพาะเวลาเย็น เนื่องจากมะขามมีฤทธิ์เสมือนกรดผลไม้ ช่วยขจัดเซลส์ที่ตายแล้ว
ถ้าใช้เวลาเช้าแล้วออกไปทำงานถูกแสงแดดจัด อาจทำให้เกิดความระคายเคืองผิวได้ ปัจจุบันครีมมะขามที่ว่านี้ยกระดับไปใช้บริการในสปาหรูกันแล้วจะบอกให้




กาแฟสมุนไพรลดอาการปวดศรีษะไมเกรน

ส่วนผสม / เครื่องปรุง

เมล็ดชุมเห็ดไทย 100 กรัม

เมล็ดข้าวโพดแห้ง 50 กรัม

เม็ดมะขาม 20 เม็ด





วิธีทำ

เอากระทะตั้งไฟ คั่วเม็ดมะขามด้วยไฟอ่อน ๆ ก่อนจนหอมและสุกดีแล้วเอาออกจากกระทะ
นำ มาแกะเปลือกออกแล้วโขลกให้เม็ดมันแตกออก เป็นชิ้นเล็ก ๆ จากนั้นจึงใส่เมล็ดข้าวโพดกับชุมเห็ดไทยลงไป
ในกระทะคั่วรวมกันโดยใช้ไฟอ่อนๆ ตลอดเวลาจนหอมและแห้งดีแล้วจึงนำไปบดด้วยโม่ไฟฟ้าก็ได้
จะโขลกให้เมล็ดของมันพอแตกก็ได้ จากนั้นนำไปผสมกับเม็ดมะขามเมื่อ ต้องการใช้ให้ตักมา 1 ช้อนโต๊ะ
แล้วต้มกับน้ำ 3 ถ้วย หลังจากน้ำเดือดแล้ว ให้เคี่ยวนานสัก 10 นาทีกรองเอากากออกแล้วดื่มแทนกาแฟได้เลย

หมายเหตุ
กลิ่นของกาแฟสมุนไพรถ้วยนี้จะเหมือนกับกาแฟมากเหมาะสำหรับผู้ที่ติดกาแฟและ ต้องการดื่มอะไรเพราะติดเป็นนิสัยกาแฟถ้วยนี้ไม่มีคาเฟอีนจึงสามารถใช้แทน กาแฟธรรมดาได้ดีในวันที่ต้องเลิกกาแฟ
ข้อดีอีกประการหนึ่งของกาแฟถ้วยนี้คือเมล็ดชุมเห็ดไทยมีฤทธิ์ในเชิงสงบ ประสาทจะช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ
ในระหว่างการอดกาแฟได้ดีทีเดียว หาซื้อเมล็ดชุมเห็ดไทยได้ตามร้านขายยาสมุนไพรไทยทั่ว
ไปราคาไม่แพงเลยตกกิโลกรัมละประมาณ 25 บาทเท่านั้น



มะขาบแก้คราบบุหรี่ติดฟัน

คน สูบบุหรี่จัดและดื่มกาแฟวันละหลายๆ แก้วแล้ว มีปัญหาฟันติดคราบบุหรี่และคราบกาแฟเป็นสีเหลืองหรือสีดำดูน่าเกลียดมาก เวลานั่งรับประทานอาหารกับเพื่อนๆ หรือคนอื่นเขาเห็นเข้าจะแสดงอาการไม่ชอบด้วยการย้ายไปนั่งรับประทานที่อื่น ทันที ทางแก้ ดีที่สุดคือต้องไปให้หมอฟันช่วยกรอหรือขัดฟันทำให้หายได้ แต่บางคนไม่ชอบหรือไม่กล้าเพราะเป็นโรคกลัวหมอฟัน รู้สึกเสียว จึงขอให้ช่วยแนะนำสูตรสมุนไพรในการแก้อาการดังกล่าวด้วย



ซึ่งเรื่องนี้ ในทางสมุนไพรมีสูตรรักษาแบบง่ายๆ และใช้ได้ผลมาแต่โบราณแล้วคือ ให้เอาผลหรือฝัก “มะขาม”
ที่เป็นผลหรือฝักแก่จัดยังดิบอยู่ ไม่ถึงสุก ผ่าเอาเมล็ดในออกแล้ว เอาเฉพาะเนื้อขัดถูฟันเป็นประจำเช้า
กลางวัน และก่อนนอน ถูหรือขัดไปเรื่อยๆ จะค่อยๆลดคราบบุหรี่ และคราบกาแฟที่ติดฟันได้ ฟันจะขาวสะอาดใสเหมือนเดิม ใครที่เป็นโรคกลัวหมอฟันเอาสูตรนี้ไปใช้รับรองว่าได้ผลแน่นอน


http://www.sweet-tamarind.ob.tc/prayod.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น