วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

การรักษาแผลสดจากอุบัติเหตุ


การรักษาแผลสดจากอุบัติเหตุ

ของที่ควรพกไปเมื่อไปเที่ยวทางไกล
1.ยากิน : ยาแก้แพ้ : Loratadine 1แผง ไว้ใช้ แก้แพ้ทุกชนิด แก้คัน และแก้หวัดได้ กิน1-2 เม็ด วันละครั้ง เวลาไหนก็ได้
ยาแก้ท้องเสีย : Norfloxacin(400mg) กิน 1เม็ดวันละ2ครั้งหลังอาหาร ใช้แก้กระเพาะปัสสาวะอักเสบ และการติดเชื้ออื่นๆได้ด้วย
Loperamide ทำให้หยุดถ่าย 1เม็ดทุก 4ชม. หยุดถ่ายให้หยุดกิน
ยาแก้ปวดแก้ไข้ : Paracetamol(500mg) กินได้ 2เม็ดทุก4ชม.
ยาแก้เมารถ : Dimenhydrinate กิน 1เม็ดทุก6ชม. แก้อาเจียนได้ด้วย ใครรู้ตัวว่าเมารถ กินครึ่งชม.ก่อนเดินทาง
2.ยาทา : Ammonia : ใช้ดมเวลาจะเป็นลม และ ทาแผลเมื่อถูกแมงกระพรุน ไปทะเลต้องพกไปนะ
Betadine : ใช้ใส่แผลสดทุกชนิด
3.ผ้าพันแผล(แบบยืดได้ Dura)
Plaster (Transpore ) & Plasterยา
Sofra-tulle (เป็นผ้าตาข่ายใส่ยาฆ่าเชื้อ และเคลือบParafin ไว้ทำให้ไม่ติดแผลเวลาลอกออก ต้องเปลี่ยนทุกวัน)
เทียนไข หรือ ดินน้ำมัน เอาคลึงที่แผลที่ถูกเหล็กไนจะเอาออกมาได้ รวมถึงแมงกะพรุนด้วย
การรักษาแผลสด
ถ้าจะไปโรงพยาบาล ห้ามใส่อะไรทั้งนั้น ให้ห้ามเลือดโดยพันแผลหรือกดไว้ด้วยผ้าสะอาดที่สุดที่หาได้ อย่าเช็ดแผล เพราะจะเช็ดเอาclot ที่อุดห้ามเลือดออก ทำให้เลือดออกอีก
โดยเฉพาะใส้บุหรี่ มันห้ามเลือดได้จริง แต่เอาออกให้หมดยากมาก (สงสารหมอหน่อยครับ) และถ้ามันค้างอยู่ในแผลแม้แต่เส้นเดียว มันจะเป็นสารแปลกปลอมอยู่ในร่างกาย แผลคุณจะเป็นหนองซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกว่าผ่าเอาออกหมด (ทุกครั้งที่เจอแบบนี้นั่งคีบไปด่าคนแนะนำไป)
ถ้าโดนสัตว์กัด ให้ล้างและฟอกแผลด้วยสบู่ เพื่อลดเชื้อพิษสุนัขบ้า(ถ้ามี) แล้วห้ามเลือด รีบไปพบหมอ
ถ้าไม่ต้องไปหาหมอ –แผลสะอาดอยู่แล้ว ให้ทา Betadine ปิดด้วย Sofra-tulle(ตัดเป็นชิ้นขนาดพับครึ่งแล้วปิดแผลได้ อย่าลืมลอกเอากระดาษไขออกด้วย ใช้แต่ตัวตาข่ายนะ เปลี่ยนทุกวัน)
ปิดทับด้วยผ้าพันแผล ทำแผลวันละครั้ง โดยทา Betadine แล้วปิดแผลแบบเดิม
ถ้าแผลสกปรก ให้ล้างน้ำเปล่าที่สะอาดที่สุด(น้ำPolarisที่กินนั่นแหละ) ซับให้แห้งห้ามเช็ด เลือดจะออก แล้วทา Betadine แล้วปิดแผล แบบข้อก่อน
ถ้าเป็นแผลถลอก ทำแบบ2ข้อข้างบน แต่อย่าปิดแผล เปิดไว้จะตกสะเก็ดใน2-5วันแผลหายเร็วกว่า ถ้าอยู่ระหว่างเดินทางอาจปิดแผลไว้ก่อน แต่ถึงบ้านให้ รีบเปิดทันที
สิ่งที่ห้ามใช้กับแผล ทั้งหมดนี้ทางการแพทย์เราไม่ใช้แล้ว (แต่ยังมีขายอยู่ ไม่รู้มี สธ.ไว้ทำไม) พวกนี้คือจำเลย ที่ทำให้แผลไม่หายและลุกลาม
Hydrogen Peroxide(ผู้ร้ายหมายเลข1) ยาเหลือง ยาแดง ทิงเจอร์ Ointmentทั้งหลาย Chloram ผงวิเศษ บัวหิมะ ยาเส้น Alchol

EDIT : เพิ่มเติมผลเสียของแต่ละตัวครับ เป็นสิ่งที่ผมพบจริงๆมาเกือบ30ปี แผลเล็กน้อยที่รักษานานแล้วยังไม่หาย และลามมากขึ้น มาจากการใช้ยาพวกนี้ทั้งนั้น
Hydrogen Peroxide : มันฆ่าเชื้อโรคได้ก็จริง แต่ก็ฆ่าcellด้วย แผลเย็บตัดไหมแผลจะไม่ติดแบะออก เพราะมันซึมลงในแผล กัดเนื้อเยื่อที่ร่างกายสร้างขึ้นเชื่อมแผล แผลถลอกก็จะขยายใหญ่ขึ้น ขอบแผลนูนเป็นสัน
Alcohol : ไม่ใช้ใส่ในตัวแผล แต่ใช้เช็ดฆ่าเชื้อ ที่ผิวปกติ ข้างๆแผล
Tincture Iodine : ฆ่าเชื้อได้ดีที่สุดก็จริง แต่มันจะทำลายเนื้อเยื่อของเราด้วย
ยาเหล์อง และยาแดง : ฆ่าเชื้อได้ไม่ดีนัก และจะจับเป็นผลึกอยู่บนแผล ข้างใต้เป็นที่สะสมเชื้อโรคอีกด้วย
Chloramผง(ถอดcapsuleมาโรย) : เป็นการใช้ยาผิดroute(ไม่รู้จะแปลยังไง) เขาทำไว้ให้กิน จึงไม่ได้ผล และอาจกระตุ้นให้แพ้ chloramด้วย
Ointmentทั้งหลาย : พบว่าไม่ช่วยฆ่าเชื้อโรค และยังกระตุ้นให้แพ้ยากินด้วย
Gentamycin cream ฆ่าเชื้อได้จริง แต่ไม่ควรใช้ในแผลสด ใช้ทาที่หัวฝีร่วมกับยากินจะได้ผลดี
ผงวิเศษ และผงอื่นๆ : ฆ่าเชื้อไม่ได้ ในช่วงแรกที่ดูดีขึ้น เพราะมันเป็นผงแป้ง จึงดูดน้ำจากBacteriaทำให้ตาย และยังดูดซับน้ำเหลืองด้วย แผลจึงดูแห้ง แต่ไม่นานมันจะจับเป็นแผ่นคลุมบนแผล เป็นที่อยู่และอาหารเลี้ยงเชื้อโรค เพราะเป็นcarbohydrate แผลจะแย่ขึ้น ใส่แป้งมันก็มีผลเช่นกันครับ
ยาเส้น : ชาวบ้านใช้ห้ามเลือด ได้ผล แต่ ถ้าเก็บออกไม่หมดค้างอยู่ในแผลแม้แต่เส้นเดียว แผลจะเป็นหนองขึ้นมาเรื่อยๆ จนผ่าเอาออกจึงหาย ของอื่นทุกชนิดที่ค้างอยู่ในเนื้อก็มีผลแบบเดียวกัน
สำลีไม่ควรใช้กับแผลเพราะเส้นใยอาจตกค้างอยู่ในแผล เกิดผลแบบเดียวกัน ให้ใช้เป็นcotton bud จะดีกว่า และห้ามปิดแผลด้วยสำลี เพราะเหตุผลเดียวกัน


http://cliniconweb.blogspot.com/2008/03/blog-post.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น