วันอังคารที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ประวัติศาสตร์ชาติไทยกับสงครามโลกครั้งที่ 2

ประวัติศาสตร์ชาติไทยกับสงครามโลกครั้งที่ 2
.............วันนี้ได้อ่านบทความต่าง ๆ ในหนังสือพิมพ์ซึ่งก็มีหลายหัวข้อเช่น การเสียชีวิตของนายป๋วย ซึ่งนำมาผูกกับภาพผู้รักชาติเสรีไทย , การครบรอบ 54 ปีในวันนี้ของการการทิ้งระเบิดปรมาณูที่เมืองนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น, การเตรียมสร้างถนนเชื่อมไทย-พม่าที่จะ เปิดใช้ในอีก 2 ปีข้างหน้า แล้วก็ทำให้นึกถึงอดีตสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ไทยมีส่วนเกี่ยวข้องเมื่อเกือบ 60 ปีที่ผ่านมา ซึ่งผมมีความเชื่อว่าสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้เป็นสงครามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติเท่าที่เคยมีมา เป็นสงครามที่มีหลักฐานยืนยัน ชัดเจนเป็นสงครามแรก และยังได้สร้างตำนานของวีรบุรุษไว้ตราบชั่วฟ้าดินสลาย แต่สำหรับในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความเป็นไทยมีบางอย่างแปลก ๆ ไป ไม่มีการเรียนการสอนถึงสงครามนี้แม้ว่าจะเกิดขึ้นมา 60 ปีแล้ว ไม่มีการนำมาวิเคราะห์ว่าก่อน ระหว่าง และหลังสงครามได้เกิดอะไรและมีการแก้ไขอย่างไร วรรณกรรมที่นำมาเล่าสู่กันฟังก็มีที่เห็นชัดอย่างเดียวก็คือเรื่องคู่กรรม เรื่องราวความรักของนายทหาร ทหารญี่ปุ่น (ทางญี่ปุ่นยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่นายทหารญี่ปุ่นจะมีพฤติกรรมแบบโกโบรินี้ในระหว่างสงคราม) และสาวไทยแถวบางกอกน้อย และมีเรื่องที่คลุมเครือเกี่ยวกับการกระทำของเสรีไทย แล้วก็การต่อสู้ของคนไทยกับญี่ปุ่นที่อ่าวมะนาวในวันที่ญี่ปุ่นทำการบุกพร้อม ๆ กันทั้งอเมริกาและเอเชีย คนไทยวัยรุ่นในปัจจุบันรู้เพียงเท่านี้จริง ๆ โดยไม่รู้ว่าศัตรูของชาติเราในขณะนั้นคือฝ่ายสัมพันธมิตร ทางรถไฟสายมรณะที่เคย ยาวถึงประเทศอินเดียทำไม่เขาถึงรื้อทิ้งจนทุกวันนี้ ไทยต้องจ่ายเงินซื้อสะพานข้ามแม่น้ำแคว และต้องจ่ายข้าวกว่า 2 แสนตันเป็นค่าปฏิกรณ์สงครามให้แก่อังกฤษ เขตแดนประเทศไทยทางเหนือเคยเลยไปถึงแคว้นเชียงตุง ทางตะวันออกกินเสยเข้าไปในพระตะบองเสียมราฐและฝั่งขวาแม่น้ำโขงของลาวในปัจจุบัน ทางตะวันตก ทวาย ตะนาวศรี และทางด้านใต้เลยลึกจากที่มีอยู่ปัจจุบัน แผนที่ประเทศไทยสมัยนั้นนับว่ามีพื้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยเป็นการนำดินแดนที่เราสูญเสียไปในสมัยรัชกาลที่ 4 และ 5 คืนมาได้ทั้งหมด
............. สิ่งเหล่านี้อาจจะถูกกำหนดไม่ให้มีการนำมาเรียนมาสอนในชั้นเรียนด้วยเหตุผลใดมิอาจรู้ได้ (ขนาดเหตุการณ์ ตุลา16 และ พฤษภา35 ซึ่งเกิดไม่กี่ปีอีกไม่นานก็จะนำมาอยู่ในหนังสือเรียนแล้ว) แต่ประวัติศาสตร์ความภาคภูมิใจเหล่านี้ยังคงมีอยู่ให้อ่านตามห้องสมุดใหญ่ ๆ และในประวัติของนายทหารที่เป็นรัฐบาลในยามบ้านเมืองเกิดวิกฤติขณะนั้น ซึ่งก็มีทั้งแบบพิมพ์เพื่อเป็นการยกย่องเทิดทูนหรือแจกเป็นที่ระลึกในงานศพของท่านเหล่านั้น สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้อาจจะหาได้ยากแต่มิได้หมายความว่าหาไม่ได้ ผมจึงอยากให้ทุกคนได้ลองค้นหาความจริงถ้ามีโอกาสและดำรงความเป็นจริงเหล่านี้ไว้ ไม่ให้หายไปกับการเวลาหรือถูกใครมาบังคับให้หายไปเหมือนกับประวัติศาสตร์ไทย 2-300 ปีก่อนที่ต้องไปเอามาจากประเทศอื่นในการเป็นหลักฐาน ผมไม่ได้หวังให้เราจมปลักอยู่ในอดีตหรอกครับ เพียงแต่อยากให้เอาความจริง และบทเรียนในอดีตมาค้นหาวิธีแก้ไม่ให้ประวัติศาสตร์ที่เราไม่อยากให้เกิดเกิดซ้ำรอยขึ้นมาอีก และมาวิเคราะห์ถึงปัญหาที่เกิดในปัจจุบันว่ามีเรื่องไหนบ้างที่เกิดจากผลพวงการกระทำที่เกิดขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2


http://www.taharn.net/x/x9h42r1.htm

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น